<เครือข่าย>
การตั้งค่าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายจะแสดงรายการพร้อมคำอธิบาย การตั้งค่ามาตรฐานจะมีเครื่องหมายแดกเกอร์ (
) กำกับไว้
|
ดอกจัน (*)การตั้งค่าที่กำกับด้วย "*1" จะไม่สามารถนำเข้าหรือส่งออก การตั้งค่าที่กำกับด้วย "*2" อาจไม่แสดงผล ขึ้นอยู่กับรุ่นที่คุณใช้ ตัวเลือก หรือรายการตั้งค่าอื่นๆ |
<เลือก LAN มีสาย/ไร้สาย>
เมื่อสลับเครื่องจาก LAN แบบไร้สายไปเป็น LAN แบบใช้สาย คุณต้องระบุการตั้งค่า ในทางตรงข้าม เมื่อสลับเครื่องจาก LAN แบบใช้สายไปเป็น LAN แบบไร้สาย คุณไม่จำเป็นต้องระบุการตั้งค่านี้ (คุณสามารถสลับโดยใช้ <การตั้งค่า LAN ไร้สาย> ต่อไปนี้)
การเลือก LAN แบบใช้สายหรือ LAN แบบไร้สาย<LAN แบบมีสาย> <LAN แบบไร้สาย> |
<การตั้งค่า LAN ไร้สาย>
ระบุการตั้งค่าสำหรับเชื่อมต่อเครื่องเข้ากับ LAN แบบไร้สาย คุณยังสามารถดูการตั้งค่าปัจจุบันหรือระบุการตั้งค่าเพื่อให้ประหยัดการใช้พลังงาน
<การตั้งค่า SSID>
เลือกเพื่อกำหนดค่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายโดยระบุข้อมูลต่างๆ รวมถึง SSID หรือคีย์เครือข่ายโดยป้อนค่าด้วยตนเองจากแผงควบคุมการทำงาน
<เลือกจุดการเข้าถึง>
เราเตอร์ LAN แบบไร้สายที่สามารถเข้าถึงเครื่องจะถูกค้นหาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกจากรายการได้ คุณต้องป้อนคีย์เครือข่ายด้วยตนเอง เช่น คีย์ WEP หรือ PSK
การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยเลือกเราเตอร์แบบไร้สาย<กรอกด้วยตนเอง>
เลือกเพื่อกำหนดค่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายโดยการป้อน SSID ด้วยตนเอง ด้วยการใช้วิธีการนี้ คุณจะสามารถระบุการตั้งค่าการรับรองความถูกต้องและการเข้ารหัสโดยละเอียดได้
การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยระบุการตั้งค่าโดยละเอียด<การตั้งค่าความปลอดภัย> <ไม่มี> <WEP> <ระบบเปิด> คีย์ WEP 1 ถึง 4 <คีย์ที่ใช้ร่วมกัน> คีย์ WEP 1 ถึง 4 <WPA/WPA2-PSK> <อัตโนมัติ> <AES-CCMP> |
<โหมดปุ่มกด WPS>
เลือกเพื่อกำหนดค่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายโดยอัตโนมัติโดยใช้ปุ่มบนเราเตอร์แบบไร้สาย WPS
การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยใช้โหมดกดปุ่ม WPS<โหมดรหัส PIN WPS>
เลือกเพื่อกำหนดค่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายโดยป้อนรหัส PIN สำหรับเราเตอร์แบบไร้สาย WPS
การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยใช้โหมดรหัส PIN ของ WPS<โหมดประหยัดพลังงาน>
เลือกว่าจะให้เครื่องเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานหรือไม่ขึ้นอยู่กับสัญญาณที่ปล่อยจากเราเตอร์แบบไร้สาย
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่า LAN ไร้สาย>
อ่านข้อความที่ปรากฏขึ้น
<OK>
<โหมดประหยัดพลังงาน>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด>
<ข้อมูลการเชื่อมต่อ> *1
เลือกเพื่อดูการตั้งค่า LAN แบบไร้สายปัจจุบัน
การตรวจดูการตั้งค่าเครือข่าย<ที่อยู่ MAC> <สถานะ LAN ไร้สาย> <ข้อมูลข้อผิดพลาดล่าสุด> <ช่อง> <การตั้งค่า SSID> <การตั้งค่าความปลอดภัย> <โหมดประหยัดพลังงาน> |
<การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยตรง>
ตั้งค่าว่าจะเชื่อมต่อโดยตรงหรือไม่ การเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ จะทำให้สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับเครื่องได้ แม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีจุดเข้าใช้งานหรือเราเตอร์ LAN แบบไร้สายก็ตาม
การเชื่อมต่อโดยตรง (โหมดจุดเข้าใช้งาน)<ใช้การเชื่อมต่อโดยตรง> <ปิด> <เปิด> |
<การสิ้นสุดการเชื่อมต่อโดยตรง>
ระบุเวลาเพื่อปลดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ หลังจากที่มีการเชื่อมต่อโดยตรง
<สิ้นสุดเซสชันโดยอัตโนมัติ> <ปิด> <เปิด> <เวลาจนกระทั่งเซสชันสิ้นสุดลง> 1 ถึง 60 (นาที) |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยตรง>
<การสิ้นสุดการเชื่อมต่อโดยตรง>
เลือก <เปิด> ใน <สิ้นสุดเซสชันโดยอัตโนมัติ> และป้อนเวลา
<นำไปใช้>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การตั้งค่าโหมดจุดเข้าใช้งาน>
กำหนดค่า SSID /คีย์เครือข่ายตามที่ต้องการ ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่หลายเครื่องเข้ากับเครื่องนี้พร้อมกัน คุณต้องกำหนดค่าทั้ง SSID และคีย์เครือข่ายตามที่ต้องการ
<ใช้ SSID แบบกำหนดเอง> <ปิด> <เปิด> <SSID> <ใช้คีย์เครือข่ายกำหนดเอง> <ปิด> <เปิด> <คีย์เครือข่าย> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยตรง>
<การตั้งค่าโหมดจุดเข้าใช้งาน>
เลือก <เปิด> สำหรับแต่ละรายการ และเลือก <SSID>/<คีย์เครือข่าย>
ป้อน SSID/คีย์เครือข่าย
<นำไปใช้>
<นำไปใช้>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<คงการเปิดใช้งานหากระบุ SSID/คีย์เครือข่าย> *2
ระบุว่าจะให้เครื่องรอการเชื่อมต่อโดยตรงหรือไม่
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยตรง>
<คงการเปิดใช้งานหากระบุ SSID/คีย์เครือข่าย>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
|
เมื่อตั้งค่ารายการนี้เป็น <เปิด> ให้กำหนดค่าล่วงหน้าสำหรับ SSID หรือคีย์เครือข่ายแบบกำหนดเองโดยใช้ <การตั้งค่าโหมดจุดเข้าใช้งาน> |
<กำหนดค่าที่อยู่ IP สำหรับก.เชื่อมต่อโดยตรง>
ป้อนที่อยู่ IP ของเครื่องด้วยตนเองในเวลาที่มีการเชื่อมต่อโดยตรง
192.168.22.1 |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าการเชื่อมต่อโดยตรง>
<กำหนดค่าที่อยู่ IP สำหรับก.เชื่อมต่อโดยตรง>
ป้อนที่อยู่ IP ที่กำหนดเอง
<นำไปใช้>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การเชื่อมต่ออย่างง่ายผ่าน PC>
เริ่มต้นขั้นตอนสำหรับการเชื่อมต่ออย่างง่ายผ่าน PC (โหมดการตั้งค่าแบบไร้สาย) คุณสามารถใช้ Canon Laser NW Device Setup Utility เพื่อกำหนดการตั้งค่าเครือข่ายผ่านคอมพิวเตอร์
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การเชื่อมต่ออย่างง่ายผ่าน PC>
<ใช่>
กระบวนการเชื่อมต่อจะเริ่มต้นขึ้น
|
ดาวน์โหลด Canon Laser NW Device Setup Utility จากเว็บไซต์ Canon (https://global.canon) |
<การตั้งค่า TCP/IP>
ระบุการตั้งค่าสำหรับการใช้เครื่องในเครือข่าย TCP/IP เช่น การตั้งค่าที่อยู่ IP
<การตั้งค่า IPv4>
ระบุการตั้งค่าสำหรับการใช้เครื่องในเครือข่าย IPv4
<การตั้งค่าที่อยู่ IP>
กำหนดค่าที่อยู่ IP ที่จะใช้สำหรับระบุอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ บนเครือข่าย TCP/IP
การตั้งค่าที่อยู่ IPv4<ได้รับอัตโนมัติ> <ได้รับอัตโนมัติ> <ปิด> <เปิด> <เลือกโปรโตคอล> <ปิด> <DHCP> <IP อัตโนมัติ> <ปิด> <เปิด> <ขอรับด้วยตนเอง>*2 <ที่อยู่ IP>: 0.0.0.0 <ซับเน็ตมาสก์>: 0.0.0.0 <ที่อยู่เกตเวย์>: 0.0.0.0 <ตรวจสอบการตั้งค่า> |
<การตั้งค่าตัวเลือก DHCP>
ถ้าเปิดใช้งาน DHCP ให้ใช้การตั้งค่าเหล่านี้เพื่อใช้ฟังก์ชัน DHCP ที่เป็นตัวเลือกเพื่อรับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS หรือชื่อโดเมน
การกำหนดค่า DNS<ได้รับชื่อโฮสต์> <ปิด> <เปิด> <อัพเดต DNS ไดนามิค> <ปิด> <เปิด> <ได้รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS> <ปิด> <เปิด> <ได้รับชื่อโดเมน> <ปิด> <เปิด> <ได้รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ WINS> <ปิด> <เปิด> <ได้รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ SMTP> <ปิด> <เปิด> <ได้รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ POP> <ปิด> <เปิด> |
<คำสั่ง PING>
เลือกเพื่อตรวจสอบว่าเครื่องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านเครือข่ายหรือไม่
การทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย<การตั้งค่า IPv6>
ระบุการตั้งค่าสำหรับการใช้เครื่องในเครือข่าย IPv6
การตั้งค่าที่อยู่ IPv6<ใช้ IPv6> <ปิด> <เปิด> |
<ตรวจสอบการตั้งค่า IPv6>
คุณสามารถตรวจสอบที่อยู่ลิงค์ภายในที่ได้รับโดยอัตโนมัติ
<การตั้งค่าที่อยู่แบบไม่มีสถานะ>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานที่อยู่แบบไม่มีสถานะ
<การตั้งค่าที่อยู่แบบไม่มีสถานะ> <ปิด> <เปิด> <ตรวจสอบการตั้งค่า> <ที่อยู่แบบไม่มีสถานะ> <ความยาวส่วนนำหน้า> |
<การตั้งค่า DHCPv6>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานที่อยู่แบบมีสถานะที่ต้องการผ่าน DHCPv6
<ใช้ DHCPv6> <ปิด> <เปิด> <ตรวจสอบการตั้งค่า> <ที่อยู่แบบมีสถานะ> <ความยาวส่วนนำหน้า> |
<การตั้งค่าตัวเลือก DHCP>
ถ้าเปิดใช้งาน DHCP ให้ใช้การตั้งค่าเหล่านี้เพื่อใช้ฟังก์ชัน DHCP ที่เป็นตัวเลือกเพื่อรับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS หรือชื่อโดเมน
การกำหนดค่า DNS<ได้รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS> <ปิด> <เปิด> <ได้รับชื่อโดเมน> <ปิด> <เปิด> |
<การตั้งค่า DNS>
ระบุการตั้งค่าสำหรับระบบชื่อโดเมน (Domain Name System (DNS)) ซึ่งจะให้ชื่อโฮสต์สำหรับการจำแนกที่อยู่ IP
การกำหนดค่า DNS<การตั้งค่าที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS แบบ IPv4>
ระบุที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ DNS ในสภาพแวดล้อม IPv4
<เซิร์ฟเวอร์ DNS เริ่มต้น>: 0.0.0.0 <เซิร์ฟเวอร์ DNS สำรอง>: 0.0.0.0 |
<การตั้งค่าชื่อโฮสต์/ชื่อโดเมน DNS>
ระบุชื่อโฮสต์ของเครื่องที่จะลงทะเบียนในเซิร์ฟเวอร์ DNS รวมถึงชื่อโดเมนของเครื่อง
<IPv4> <ชื่อโฮสต์> <ชื่อโดเมน> <IPv6> <ใช้ IPv4 โฮสต์/โดเมน> <ปิด> <ชื่อโฮสต์> <ชื่อโดเมน> <เปิด> |
<การตั้งค่าอัพเดต DNS ไดนามิค>
เลือกว่าจะอัพเดตระเบียน DNS เมื่อใดก็ตามที่ที่อยู่ IP ของเครื่องมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
<IPv4> <อัพเดต DNS ไดนามิค> <ปิด> <เปิด> <ช่วงเวลาอัพเดต DNS ไดนามิค> 0 ถึง 24 ถึง 48 (ชั่วโมง) <IPv6> <อัพเดต DNS ไดนามิค> <ปิด> <เปิด> <ลงทะเบียนที่อยู่ด้วยตนเอง> <ปิด> <เปิด> <ลงทะเบียนที่อยู่แบบมีสถานะ> <ปิด> <เปิด> <ลงทะเบียนที่อยู่แบบไม่มีสถานะ> <ปิด> <เปิด> <ช่วงเวลาอัพเดต DNS ไดนามิค> 0 ถึง 24 ถึง 48 (ชั่วโมง) |
<การตั้งค่า mDNS>
ระบุการตั้งค่าสำหรับการใช้ฟังก์ชัน DNS โดยไม่มีเซิร์ฟเวอร์ DNS
<IPv4> <ใช้ mDNS> <ปิด> <เปิด> <ชื่อ mDNS> <IPv6> <ใช้ mDNS> <ปิด> <เปิด> <ใช้ชื่อ mDNS เดียวกับ IPv4> <ปิด> <ชื่อ mDNS> <เปิด> |
<การตั้งค่า WINS>
ระบุการตั้งค่าสำหรับ Windows Internet Name Service (WINS) ซึ่งเตรียมชื่อ NetBIOS สำหรับการจำแนกที่อยู่ IP ในสภาพแวดล้อมของเครือข่ายผสมแบบ NetBIOS และ TCP/IP
การกำหนดค่า WINS<การจำแนกชื่อ WINS> <ปิด> <เปิด> <ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ WINS>: 0.0.0.0 |
<การตั้งค่า LPD>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน LPD ซึ่งเป็นโปรโตคอลการพิมพ์ที่สามารถใช้ในระบบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือระบบปฏิบัติใดก็ได้ คุณยังสามารถตั้งค่าระยะเวลาหมดเวลาการรับ ซึ่งการพิมพ์จะถูกยกเลิกหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าการรับข้อมูลการพิมพ์ถูกขัดจังหวะ
การกำหนดค่าโปรโตคอลการพิมพ์และฟังก์ชัน WSD<ใช้การพิมพ์ LPD> <ปิด> <เปิด> <การรับหมดเวลา> 1 ถึง 5 ถึง 60 (นาที) |
<การตั้งค่า RAW>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน RAW ซึ่งเป็นโปรโตคอลการพิมพ์แบบเฉพาะของ Windows คุณยังสามารถตั้งค่าระยะเวลาหมดเวลาการรับ ซึ่งการพิมพ์จะถูกยกเลิกหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าการรับข้อมูลการพิมพ์ถูกขัดจังหวะ
การกำหนดค่าโปรโตคอลการพิมพ์และฟังก์ชัน WSD<ใช้การพิมพ์ RAW> <ปิด> <เปิด> <การรับหมดเวลา> 1 ถึง 5 ถึง 60 (นาที) |
<ตั้งค่า WSD>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการเรียกดูและการรับข้อมูลอัตโนมัติสำหรับเครื่องพิมพ์หรือเครื่องสแกนโดยใช้โปรโตคอล WSD
การกำหนดค่าโปรโตคอลการพิมพ์และฟังก์ชัน WSD<ใช้การพิมพ์ WSD> <ปิด> <เปิด> <ใช้การเรียกดู WSD> <ปิด> <เปิด> <ใช้การสแกน WSD> <ปิด> <เปิด> <ใช้การสแกนคอมพิวเตอร์> <ปิด> <เปิด> <ใช้การค้นพบแบบหลายผู้รับ> <ปิด> <เปิด> |
<ใช้โหมด FTP PASV>
ระบุว่าจะใช้โหมด PASV สำหรับ FTP หรือไม่ ถ้าคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ FTP ผ่านไฟร์วอลล์ คุณต้องเลือกโหมด PASV
การกำหนดค่าโหมด FTP PASV<ปิด> <เปิด> |
<ใช้ HTTP>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน HTTP ซึ่งจำเป็นสำหรับการเสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ เช่น เมื่อใช้ UI ระยะไกล การพิมพ์ WSD หรือการพิมพ์ด้วย Google Cloud Print
การปิดใช้งานการสื่อสาร HTTP<ปิด> <เปิด> |
<ใช้ IPSec> *1
เลือกว่าจะทำการสื่อสารแบบเข้ารหัสหรือไม่ โดยการสร้างเครือข่ายส่วนตัวแบบเสมือน (Virtual Private Network (VPN)) ผ่าน IPSec
การกำหนดการตั้งค่า IPSec<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่า TCP/IP>
<ใช้ IPSec>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การตั้งค่าหมายเลขพอร์ต>
เปลี่ยนหมายเลขพอร์ตสำหรับโปรโตคอลตามสภาพแวดล้อมเครือข่าย
การเปลี่ยนหมายเลขพอร์ต<LPD> 1 ถึง 515 ถึง 65535 <RAW> 1 ถึง 9100 ถึง 65535 <การค้นพบแบบหลายผู้รับ WSD> 1 ถึง 3702 ถึง 65535 <HTTP> 1 ถึง 80 ถึง 65535 <การค้นพบแบบหลายผู้รับ> 1 ถึง 427 ถึง 65535 <POP3> 1 ถึง 110 ถึง 65535 <SMTP> 1 ถึง 25 ถึง 65535 <FTP> 1 ถึง 21 ถึง 65535 <SNMP> 1 ถึง 161 ถึง 65535 |
<ขนาด MTU>
<1300> <1400> <1500> |
<การตั้งค่า SNMP>
<การตั้งค่า SNMPv1>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน SNMPv1 เมื่อเปิดใช้งาน SNMPv1 ให้ระบุชื่อกลุ่มและสิทธิในการเข้าถึงอ็อบเจ็กต์ Management Information Base (MIB)
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่า SNMP>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <การตั้งค่า SNMPv1>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การตั้งค่า SNMPv3>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน SNMPv3 ใช้ UI ระยะไกลเพื่อระบุการตั้งค่าโดยละเอียดที่จะใช้เมื่อเปิดใช้งาน SNMPv3
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่า SNMP>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <การตั้งค่า SNMPv3>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<ขอรับข้อมูลการจัดการเครื่องพิมพ์จากโฮสต์>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตรวจสอบข้อมูลการจัดการเครื่องพิมพ์จากคอมพิวเตอร์เครือข่ายที่ใช้งานซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้กับ SNMP
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่า SNMP>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <ขอรับข้อมูลการจัดการเครื่องพิมพ์จากโฮสต์>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<จัดรูปแบบ Host Rsrcs. MIB เป็น RFC2790>
ระบุว่าจะต้องเป็นไปตามรายละเอียดเฉพาะขั้นสูง (RFC2790) ของโปรโตคอลหรือไม่ เมื่อตรวจสอบสถานะเครื่องจากซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้กับ SNMP
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่า SNMP>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <จัดรูปแบบ Host Rsrcs. MIB เป็น RFC2790>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<ใช้พอร์ตพิเศษ>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานพอร์ตพิเศษ พอร์ตพิเศษจะนำมาใช้เมื่อมีการพิมพ์ การส่งแฟกซ์ หรือการสแกนใช้ MF Scan Utility และเมื่อเรียกดูหรือระบุการตั้งค่าเครื่องผ่านเครือข่าย
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<ใช้พอร์ตพิเศษ>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<วิธีรับรองความถูกต้องพอร์ตพิเศษ>
ระบุว่าจะจำกัดวิธีการรับรองความถูกต้องให้เป็นวิธีแบบปลอดภัยหรือไม่ เมื่อใช้พอร์ตพิเศษ ถ้าเลือก <โหมด 2> วิธีการรับรองความถูกต้องจะถูกจำกัดให้เป็นวิธีการแบบปลอดภัย
<โหมด 1> <โหมด 2> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<วิธีรับรองความถูกต้องพอร์ตพิเศษ>
เลือก <โหมด 1> หรือ <โหมด 2>
|
ถ้าเลือก <โหมด 2> คุณจะไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อจากซอฟต์แวร์การจัดการอุปกรณ์หรือไดรเวอร์ได้ในบางกรณี |
<เวลาที่ต้องรอสำหรับเริ่มต้นเชื่อมต่อ>
0 ถึง 300 (วินาที) |
<การตั้งค่าไดรเวอร์ Ethernet>
เลือกประเภท Ethernet (10BASE-T/100BASE-TX/1000BASE-T) และโหมดการสื่อสารของ Ethernet (สื่อสารสองทิศทางครึ่งอัตรา/สื่อสารสองทิศทางเต็มอัตรา) คุณยังสามารถดูที่อยู่ MAC ของ LAN แบบใช้สายได้อีกด้วย
<ตรวจวัดอัตโนมัติ>
เลือกว่าจะตรวจหาโดยอัตโนมัติหรือเลือกโหมดการสื่อสารและประเภท Ethernet ด้วยตนเอง
การกำหนดการตั้งค่า Ethernet<ปิด> <โหมดการสื่อสาร> <สื่อสารสองทิศทางครึ่งอัตรา> <สื่อสารสองทิศทางเต็มอัตรา> <ประเภท Ethernet> <10BASE-T> <100BASE-TX> <1000BASE-T> <เปิด> |
|
เมื่อตั้งค่า <โหมดการสื่อสาร> เป็น <สื่อสารสองทิศทางครึ่งอัตรา> คุณจะไม่สามารถเลือก <1000BASE-T> |
<ที่อยู่ MAC>
ตรวจสอบที่อยู่ MAC ของเครื่อง ซึ่งจะเป็นตัวเลขเฉพาะสำหรับอุปกรณ์การสื่อสารแต่ละชนิด
การดูที่อยู่ MAC สำหรับ LAN แบบใช้สาย<ใช้ IEEE 802.1X> *1*2
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<ใช้ IEEE 802.1X>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การตั้งค่าไฟร์วอลล์>
หากไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม บุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจเข้าถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสารอื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายได้ เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว ให้ระบุการตั้งค่าสำหรับตัวกรองแพคเก็ต ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่จะจำกัดการสื่อสารสำหรับอุปกรณ์ที่มีที่อยู่ IP หรือที่อยู่ MAC ที่ระบุ
<ตัวกรองที่อยู่ IPv4>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตั้งค่าสำหรับการกรองแพคเก็ตที่ส่งหรือรับจากอุปกรณ์ที่มีที่อยู่ IPv4 ที่ระบุ
การระบุที่อยู่ IP สำหรับการตั้งค่าไฟร์วอลล์<ตัวกรองขาออก> <ปิด> <เปิด> <ตัวกรองขาเข้า> <ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าไฟร์วอลล์>
<ตัวกรองที่อยู่ IPv4>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <ตัวกรองขาออก> หรือ <ตัวกรองขาเข้า>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<ตัวกรองที่อยู่ IPv6>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตั้งค่าสำหรับการกรองแพคเก็ตที่ส่งหรือรับจากอุปกรณ์ที่มีที่อยู่ IPv6 ที่ระบุ
การระบุที่อยู่ IP สำหรับการตั้งค่าไฟร์วอลล์<ตัวกรองขาออก> <ปิด> <เปิด> <ตัวกรองขาเข้า> <ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าไฟร์วอลล์>
<ตัวกรองที่อยู่ IPv6>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <ตัวกรองขาออก> หรือ <ตัวกรองขาเข้า>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<ตัวกรองที่อยู่ MAC>
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตั้งค่าสำหรับการกรองแพคเก็ตที่ส่งหรือรับจากอุปกรณ์ที่มีที่อยู่ MAC ที่ระบุ
การระบุที่อยู่ MAC สำหรับการตั้งค่าไฟร์วอลล์<ตัวกรองขาออก> <ปิด> <เปิด> <ตัวกรองขาเข้า> <ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<การตั้งค่าไฟร์วอลล์>
<ตัวกรองที่อยู่ MAC>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด> ใน <ตัวกรองขาออก> หรือ <ตัวกรองขาเข้า>
<นำไปใช้>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การตั้งค่า Google Cloud Print>
<ใช้ Google Cloud Print> <ปิด> <เปิด> <สถานะการลงทะเบียน Google Cloud Print>*1 |
<การจัดการการตั้งค่าอุปกรณ์>
<ปิด> <เปิด> |
<บริการตรวจสอบ> *1*2
เปิดใช้งานการสื่อสารที่มีเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบระยะไกล การทำงานของรายการนี้จะทำให้มีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องเป็นครั้งคราวไปยังเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบระยะไกลที่เชื่อมต่อกับเครื่อง
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<บริการตรวจสอบ>
<ใช่>
<RMT-SW>
ปล่อยสวิตช์นี้ให้ตั้งค่าเป็น <ปิด> เมื่อพนักงานบริการทำการบำรุงรักษาอุปกรณ์จากระยะไกล คุณอาจได้รับการร้องขอให้ตั้งค่าสวิตช์นี้เป็น <เปิด>
<ปิด> <เปิด> |
<เมนู>
<ค่ากำหนด>
<เครือข่าย>
<RMT-SW>
เลือก <ปิด> หรือ <เปิด>
<OK>
เริ่มต้นเครื่องอีกครั้ง
<การตั้งค่าเริ่มต้นเครือข่าย>